6 สิ่งที่ต้องเช็ค ก่อนซื้อบ้านหลังแรก

05 Apr 2024 | เมื่อ 01:19 น.

 

จะซื้อบ้านหลังแรกทั้งที ต้องเช็คความพร้อมหลายๆ อย่าง ซึ่งต้องการการวางแผนและการตัดสินใจอย่างรอบคอบ เพื่อให้การตัดสินใจครั้งนี้ไม่กลายเป็นภาระหรือปัญหาในภายหลัง ดังนั้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ โดยเฉพาะ 6 สิ่งสำคัญเหล่านี้ ที่ต้องเช็คให้ดีก่อนซื้อบ้านหลังแรก

 

1. เช็คกำลังผ่อนจ่าย: จำเป็นอย่างมากที่ต้องเช็คความพร้อมในการผ่อนจ่ายค่าบ้าน ว่าพร้อมที่จะผ่อนชำระเป็นระยะเวลานานหลายปีหรือไม่ เพราะมักจะเกิดปัญหาผ่อนไม่ไหว ซึ่งสิ่งที่ควรเช็คก็มีทั้ง ฐานเงินเดือน ว่าสามารถผ่อนเท่าไหร่ต่อราคาบ้านกี่บาท, อายุ ทั้งอายุขัยและอายุงาน เพราะต้องผ่อนชำระเป็นเวลานาน อายุมากขึ้น การงานพัฒนาเลื่อนตำแหน่งเงินเดือนเพิ่มขึ้นหรือไม่, รายรับ รายจ่าย ในแต่ละเดือนส่งผลต่อการผ่อนค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือไม่ หรือหากมีผู้กู้ร่วมก็ควรเช็คกำลังความพร้อมอีกฝ่ายด้วย

 

2. เช็คราคาบ้าน: ราคาบ้านในปัจจุบันค่อนข้างหลากหลายทั้ง ถูก-แพง ตามทำเลและรูปแบบบ้าน เช่น บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์โฮม, คอนโด ฯลฯ ควรเช็คราคาบ้านให้เหมาะสมต่อกำลังผ่อนชำระของตัวเองด้วย และอาจต้องคำนึงถึงการขายต่อในอนาคต หากเลือกทำเลดี ก็มีโอกาสที่จะราคาขึ้น และขายออกได้ง่ายในอนาคคต

 

3. เช็คเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้: สินเชื่อบ้านจะเป็นสินเชื่อระยะยาว คือมีเวลาผ่อนชำระคืนหลายปีตั้งแต่ 5 – 30 ปี โดยธนาคารหรือสถาบันการเงินจะให้กู้ได้ไม่เกิน 90% และคิดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงแบบลอยตัว คือคิดตามความน่าเชื่อถือของผู้กู้ เช่น MLR อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี และ MRR อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี โดยสินเชื่อบ้านจะเป็นแบบลดต้นลดดอก คือดอกเบี้ยจะลดลงตามเงินต้นคงเหลือ ดังนั้นหากมีเงินสักก้อนก็เอามาโปะเงินต้นให้ลดลงได้ เพื่อที่ดอกเบี้ยจะได้ลดลงตาม และสามารถปิดยอดหนี้ก่อนกำหนดได้ โดยจ่ายแค่เงินต้น จะแตกต่างจากสินเชื่อรถยนต์ที่ต้องปิดยอดทั้งหมดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เพราะได้คิดคำนวณตายตัวแล้ว ดังนั้นควรเช็คอัตราเงินกู้จากหลายๆ ธนาคารเพื่อเปรียบเทียบว่าอันไหนตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด

 

4. เช็ครีไฟแนนซ์ (refinance): ผ่อนไม่ไหว ดอกเบี้ยสูง รีไฟแนนซ์ถือเป็นตัวช่วยที่ดี โดยการ รีไฟแนนซ์ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน, รถ, คอนโดฯ จะเป็นการกู้เงินใหม่ เพื่อเอามาโปะหนี้เก่า ซึ่งอาจจะทำเรื่องกับธนาคารเดิมหรือธนาคารใหม่ได้ โดยดอกเบี้ยใหม่จะลดลง ช่วยให้ลดจำนวนค่างวดผ่อนในแต่ละเดือน และยังช่วยให้มีระยะเวลาผ่อนยาวนานขึ้น ซึ่งปกติหากต้องการให้ดอกเบี้ยลด ก็จะเพิ่มเงินค่างวด แต่วิธีนี้เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่คนผ่อนบ้าน,ผ่อนรถ ใช้เป็นเทคนิคลดดอกเบี้ย โดยสิ่งที่ควรเช็คคือนโยบายกำหนดดอกเบี้ยต่ำของแต่ละธนาคาร ว่าจะคงที่กี่ปี เพราะปกติแล้วดอกเบี้ยจะต่ำแค่ 3 ปีแรกเท่านั้น จากนั้นก็ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่ม ทำให้หลายคนรีไฟแนนซ์เรื่อยๆ เพื่อหาดอกเบี้ยต่ำก็มี

 

5. เช็คค่าใช้จ่ายต่างๆ: ใช่ว่าจะมีแต่ค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินเรื่องซื้อบ้านอย่าง ค่าจดจำนอง, ค่าโอน, ค่าประกัน ฯลฯ เท่านั้น ยังมีค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ ที่ควรเช็คลิสต์ไว้เช่นกัน เช่น ค่าซ่อมแซ่ม, ค่าตรวจบ้าน, ค่าตกแต่ง ฯลฯ ควรเตรียมเงินส่วนนี้ไว้สักก้อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ดังนั้นควรเก็บหอมรอมริบเล็กๆ น้อยๆ สะสมให้เป็นเงินก้อนนี้ให้ได้

 

6. เช็คเงินเก็บ: ควรมีเงินเก็บเป็นเงินสดสักก้อน เพื่อที่จะใช้เป็นเงินดาวน์ ซึ่ง เงินดาวน์ (Down Payment) คือเงินสดที่จ่ายชำระล่วงหน้าไปส่วนนึง แล้วผ่อนชำระส่วนที่เหลือเป็นงวดๆ ส่วนใหญ่ธนาคารจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของวงเงินกู้เช่น 10%, 20%, 30% ยิ่งวางเงินดาวน์มากเท่าไหร่ เงินกู้น้อย ภาระในการผ่อนค่างวดก็จะน้อยลง และหากวางเงินดาวน์น้อย เงินกู้เยอะ ภาระในการผ่อนจ่ายจะหนัก ซึ่งปัจจุบันมีเกณฑ์วางเงินดาวน์ขั้นต่ำตามกฎหมาย เพื่อช่วยให้ผู้กู้เองผ่อนชำระได้สบายๆ ดังนั้นจำเป็นอย่างมากที่ต้องมี เงินเก็บ สักก้อนเพื่อวางเป็นเงินดาวน์

 

เงินสด, เงินดาวน์ เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการซื้อบ้านแบบผ่อน เพราะมีผลต่อจำนวนเงินที่จะผ่อนในแต่ละงวด ดังนั้นใครที่เป็นมนุษย์เงินเดือน หรือมีรายได้ประจำแน่นอน ควรวางแผนเก็บออมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ วางแผนการเงิน  ให้เป็นระบบ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการผ่อนไม่ไหว