วิธีขายแหวนทองครึ่งสลึง และน้ำหนักทองอื่นๆ

05 Apr 2024 | เมื่อ 04:09 น.

 

“ทองครึ่งสลึง” ถือเป็นน้ำหนักทองยอดนิยมที่คนไทยจะเลือกซื้อเป็นอันดับต้นๆ ในการซื้อทองคำ เพราะมีราคาที่ไม่แพงเกินไป สามารถซื้อได้ด้วยเงินหลักพันต้นๆ ซึ่งหลายคนเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการซื้อทองมากนัก แต่ส่วนใหญ่จะงุนงงและไม่เข้าใจในขั้นตอนการขายทองคืนซะมากกว่า

 

วิธีซื้อทอง: อาจไม่ยุ่งยากซับซ้อนอะไรนัก แค่เข้าร้านทองเลือกน้ำหนัก, เลือกลวดลาย, จ่ายค่าทองบวกค่ากำเหน็จ ก็ได้ทองมาใช้งานแล้ว แต่หากเป็นวิธีขายทอง หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ราคารับซื้อคืนไม่เท่ากัน โดยเฉพาะทองครึ่งสลึง ที่หากต้องการขาย ต้องรู้อะไรบ้าง

 

วิธีขายทองคืน: ร้านทองจะทำการชั่งน้ำหนักบนตราชั่งเพื่อเช็คว่าน้ำหนักทองที่ลูกค้าเอามาขายนั้น ครบเต็มจำนวน หรือไม่ หากน้ำหนักทองขาด ไม่ครบ ก็จะได้ราคาตามน้ำหนักทองที่เหลือ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ทองรูปพรรณ มักมีโอกาสที่น้ำหนักทองจะหายมากกว่า เพราะการใช้งานที่ใส่บ่อยๆ

 

โดย มาตรฐานน้ำหนักทองในประเทศไทย จะกำหนดให้ทองรูปพรรณ 1 บาท เท่ากับ 4 สลึง หนัก 15.16 กรัม (ทองคำแท่ง หนัก 15.244 กรัม) ส่วนน้ำหนักอื่นๆ เทียบสัดส่วนได้ดังนี้

 

ทอง 2 สลึง หนัก 7.58 กรัม (หนัก 1 ใน 2 ของทอง 1 บาท) 

ทอง 1 สลึง หนัก 3.79 กรัม (หนัก 1 ใน 4 ของทอง 1 บาท) 

ทอง ½ สลึง หนัก 1.895 กรัม (หนัก 1 ใน 8 ของทอง 1 บาท) 

 

สมมุติ ราคาทองวันนี้ ทองรูปพรรณ ขายออก 18,900 บาท จะขายทองครึ่งสลึงได้ราคาดังนี้

 

ขายแหวนทอง 2 สลึง รับซื้อ (18,900 / 2) = 9,450 บาท

ขายแหวนทอง 1 สลึง รับซื้อ (18,900 / 4) = 4,725 บาท

ขายแหวนทอง ½ สลึง รับซื้อ (18,900 / 8) = 2,363 บาท

 

หากน้ำหนักไม่ครบตามเกณฑ์ ก็อาจจะได้ราคาตามน้ำหนักที่เหลือ เช่น น้ำหนักทองขาดไป 0.6 กรัม  (18,900 / 15.16 x 0.6) = 748 บาท

 

จะขายได้ราคา  2,363 - 748 = 1,615 บาท

 

นอกจากนี้ ตัวแหวนทองหรือทองรูปพรรณอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น สร้อยทอง, สร้อยข้อมือ, จี้ทอง ฯลฯ จะมีส่วนผสมของ “น้ำประสานทอง”  ที่ใช้ในการเชื่อมทองให้ติดกันรวมอยู่ด้วย ทำให้มีราคารับซื้อต่ำกว่าราคารับซื้อทองคำแท่ง เพราะตัวทองแท่งเองไม่มีส่วนไหนที่ต้องเชื่อมให้ทองติดกัน น้ำหนักที่ชั่งได้จะเป็นเนื้อทองล้วนๆ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม "10เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อขายทองกับร้านทอง"