ทำไมคนนิยมซื้อทองคำแท่งให้เป็นของขวัญ

11 Apr 2024 | เมื่อ 11:46 น.

 

หากจะพูดถึงการซื้อทองคำให้เป็นของขวัญ หลายๆ คนคงจะนึกถึงการซื้อทองรูปพรรณ อย่าง สร้อยทอง, แหวนทอง, สร้อยข้อมือ ฯลฯ แต่ในปัจจุบัน ทองคำแท่ง ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน และดูเหมือนว่าจะเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้คนไทยนิยมซื้อทองแท่งให้เป็นของขวัญ ก็มาจากปัจจัยเหล่านี้

 

1. ซื้อถูก: ราคาขายออกทองคำแท่งจะถูกกว่าราคาขายออกทองรูปพรรณ เนื่องจากบวกค่าแรงน้อยกว่า

ซึ่งราคาขายทองรูปพรรณจะคิดจาก ราคาขายออกทองแท่ง + ค่าแรงเฉลี่ยตามเกณฑ์สมาคมฯ คือ 500 บาท สมมุติ ราคาขายออกทองแท่ง ณ วันนั้น บาทละ 22,000 บาท

 

ราคาขายออกทองรูปพรรณคือ 22,000 + 500 = 22,500 บาท

 

โดยร้านทองแต่ละร้านจะคิดค่าแรงไม่เท่ากัน บางร้านอาจคิดสูงถึง 10% เลยก็มี ดังนั้นทองแท่งจึงเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด

 

2. ขายแพง: ราคารับซื้อทองคำแท่งจะแพงกว่าราคารับซื้อทองรูปพรรณ เพราะเวลาเอาสร้อยทองไปขาย ร้านทองจะหัก 5% จากราคารับซื้อทองคำแท่ง เช่น สมมุติราคารับซื้อทองแท่ง ณ วันนั้น บาทละ 20,000 บาท

 

ราคารับซื้อทองรูปพรรณคือ 20,000 - 5% = 19,000 บาท

 

ซึ่ง 5% เป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ทาง สคบ. กำหนด โดยบางร้านอาจมีการหักมากกว่านี้ เพราะต้องบวกต้นทุนอื่น ๆ เช่น ค่าประกัน, ค่าขนส่ง, ค่าจ้าง, ค่าเช่า ฯลฯ  ดังนั้น ทองแท่ง นอกจากจะเป็นของขวัญที่ล้ำค่าแล้ว ยังถือเป็นหลักประกันการเงินสำรองให้คนรับด้วย

 

3. ค่ากำเหน็จถูกกว่า: ค่าแรงของทองคำแท่ง ถูกกว่า เพราะขั้นตอนการผลิตไม่ยุ่งยากซับซ้อนเหมือนขั้นตอนการผลิตทองรูปพรรณ ไม่มีการใช้น้ำประสานทองเพื่อต่อชิ้นทองเป็นลวดลาย ทำให้เวลาขายไม่โดนหักซึ่งค่าแรงทองแท่ง 1 บาทจะอยู่ที่ราวๆ 100-400 บาท ส่วนค่าแรงทองรูปพรรณจะแพงกว่าจนถึงหลักพันก็มี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลวดลายที่ผลิต

 

4. ลวดลายสวยชัดเจน: ทองแท่งมีเนื้อที่เยอะ ทำให้มองเห็นลายทองได้อย่างชัดเจน โดยการทำลวดลายทองแท่งจะเป็นการพิมพ์ลายบนเนื้อทอง ซึ่งปัจจุบันลวดลายทองแท่งมีความหลากหลาย สวยงาม เช่น ลายอักษรจีน, ลายหงส์-มังกร, ลายกราฟฟิก ฯลฯ และยังมีแพคเกจจิ้งที่สวยงามด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับการให้เนื่องในวันสำคัญต่างๆ

 

5. ไม่เสื่อมสภาพง่าย: ทองแท่งจะถูกบรรจุอยู่ในหีบห่อที่แข็งแรง ทำให้โอกาสที่ทองจะชำรุด, บุบ, หักหรือขาด มีน้อยมาก จึงเน้นเก็บเป็นสมบัติ, ทรัพย์สิน, เป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานหรือใช้ในพิธีสำคัญๆ เช่น งานแต่ง, งานวันเกิด, งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ฯลฯ โดยตัวบรรจุภัณฑ์เองก็มีการออกแบบลวดลายที่สวยงามเข้ากับเทศกาลวันสำคัญต่างๆ ด้วย

 

6. โอกาสสูญหายน้อย: ทองรูปพรรณ การใช้งานคือใส่ประดับร่างกาย ทำให้มีโอกาสสูงที่จะสูญหายได้ง่ายกว่า ส่วนทองคำแท่ง การใช้งานส่วนใหญ่จะเน้นเก็บไว้เป็นสมบัติ, ทรัพย์สิน, เป็นมรดกตกทอด รวมถึงการเก็งกำไร ทำให้โอกาสที่ทองแท่งจะสูญหายได้น้อยกว่าทองรูปพรรณ ซึ่งการเก็บรักษาทองแท่งหากเก็บไว้ในที่ปลอดภัย จะช่วยให้เก็บได้นาน นำออกมาใช้ในยามที่จำเป็นเท่านั้น

 

7. เน้นขายเก็งกำไร: เนื่องด้วยส่วนต่างราคารับซื้อทองคำแท่งต่างกับราคารับซื้อทองรูปพรรณพอสมควร ทำให้การขายทองแท่งจึงได้กำไรดีกว่า ซึ่งหากทองแท่งน้ำหนักครบ เนื้อทองไม่ขาด ก็จะได้ราคารับซื้อเต็มจำนวน ดังนั้น ทองแท่งจึงเป็นที่นิยมสำหรับการซื้อเก็งกำไร

 

จะเห็นว่าราคาทองคำแท่งและราคาทองรูปพรรณ จะมีราคาขายออก,ราคารับซื้อต่างกันพอสมควร แม้ว่าจะมีน้ำหนักทองเท่ากันก็ตาม และวิธีเลือกซื้อทองคำแท่งถือว่าง่ายกว่าวิธีเลือกซื้อพวกสร้อยทอง,แหวนทอง,สร้อยข้อมือ ฯลฯ เพราะไม่ต้องวัดขนาดให้วุ่นวาย และหากคุณไม่ได้สนิทสนมกับผู้รับมากถึงขั้นรู้ไซต์ข้อมือ, นิ้ว, รอบคอขนาดนั้น การซื้อทองแท่งให้เป็นของขวัญถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด

 

อ่านบทความเพิ่มเติม "ซื้อทองแบบไหน? ให้ถูกใจแฟน"